วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

ข้าวโพดหวานสีแดง.. สายพันธุ์แรกของโลก!!


     วงการปรับปรุงพันธุ์พืชของไทยก้าวหน้าไปอีกขั้น สามารถพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษให้มีสีแดงได้เป็นครั้งแรกของโลก เป็นผลงานของ ดร.ทวีศักดิ์ ภู่หลำ อดีตอาจารย์ภาควิชาพืชไร่ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ที่ผันตัวเองเป็นเจ้าของบริษัท สวีทซีดส์ จำกัด มากว่า 20 ปี ได้ทำการ วิจัยข้าวโพดจนค้นพบยีนสร้างสีแดง เข้มสวยในข้าวโพดข้าวเหนียว และมีลักษณะการสืบทอดทางพันธุกรรมที่มีเอกลักษณ์พิเศษ 

     ส่งผลให้เกิดไอเดียที่จะทดลองนำมาทำเป็นข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง เพื่อเพิ่มตัวเลือกที่มีคุณค่าทางอาหาร และสุขภาพให้แก่ผู้บริโภค เพราะในโลกนี้พันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษ (super sweet corn) มีแค่เพียง 2 สี ขาวกับเหลืองเท่านั้นเอง


     “สารสีแดงที่อยู่ในข้าวโพดข้าวเหนียว จัดเป็นกลุ่มแอนโทไซยานิน (anthocyanin) เป็นรงควัตถุ เป็นสารที่ดูดแสง (visible light) ชนิดเดียวกันกับที่พบในองุ่น ดอกอัญชัน และพืชที่มีสีม่วงกับสีแดงชนิดอื่น และมีผลงานวิจัยออกมามากมายระบุว่า สารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) จะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) สูง ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพผู้บริโภค”

      ดร.ทวีศักดิ์ พูดถึงข้อดีของสารสีแดงที่พบในข้าวโพดจากนั้นทีมงานวิจัยจึงได้เริ่มจากการแยกยีนสร้างสารสีแดงออกมาจากข้าวโพดข้าวเหนียว และนำไปผสมกับข้าวโพดหวานพิเศษด้วยวิธีการปรับปรุงพันธุ์โดยธรรมชาติ (conventional breeding) ไม่มีการตัดต่อยีนใดๆทั้งสิ้นแล้วจึงคัดเลือกสายพันธุ์พ่อแม่นำไปสร้างลูกผสมใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา 3 ปีกว่า เพื่อคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์ให้กลายเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่มีความหวานกรอบ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และยังมีสีแดงเข้มสวยงามเหมือนสีทับทิม


     และทำการคัดเลือกพันธุ์มาเรื่อย จนกระทั่งปี 2558 ถึงได้พันธุ์ที่นิ่งแล้ว เป็นข้าวโพดหวานสีแดงสายพันธุ์แรกของโลก เพราะได้ทำหนังสือไปสอบถามผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ทั่วโลก ปรากฏว่า ยังไม่เคยพบข้าวโพดหวานสีแดงแบบนี้มาก่อน ดร.ทวีศักดิ์ จึงได้ตั้งชื่อข้าวโพดหวานพันธุ์นี้ว่า Siam Ruby Queen หรือราชินีทับทิมสยาม


      สำหรับผลผลิตเพื่อการค้าให้คนทั่วไปลิ้มลอง จะสามารถวางจำหน่าย ในตลาดได้เป็นครั้งแรก ภายเดือน ก.ค.ปีนี้ จากแปลงปลูก 50 ไร่ ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-1825-0403.

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/content/591668

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

วันนอนหลับโลก‬ ( World Sleep Day )

วันนี้เป็นวันนอนหลับโลกจริงๆ นะ😴


      วันนอนหลับโลก‬ ศุกร์ที่ 3 ของเดือนมีนาคมทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 18 มี.ค. สำหรับวันนอนหลับโลกมีขึ้นเป็นปีที่ 8 แล้ว สนับสนุนโดยสมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลกที่ ต้องการกระตุ้นให้คนทั่วไปเห็นความสำคัญของการนอน อีกทั้งยังเรียกร้องให้คนทั่วโลกหันมาตระหนักถึงผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ เนื่องจากปัจจุบันประชากรทั่วโลกกว่า 45% ต้องเผชิญกับคุณภาพชีวิตที่แย่เพราะนอนไม่หลับ


กิจกรรมวันนอนหลับโลก หรือ “World Sleep Day” นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพดี สะท้อนให้เห็นข้อดีของการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หรือถ้าให้ตรงกับสำนวนไทยบ้านเราก็คือ “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” อยากให้เรารู้จักใช้ชีวิต หมั่นออกกำลัง และจัดการกับภาวะที่เกิดขึ้นกับร่างกายอย่างเหมาะสม 


เพราะร่างกายของคนเราควรได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่

โดยเด็กแรกเกิด-5 ปี ควรนอน 10-17 ชั่วโมง 

วัยเข้าโรงเรียน (6-13 ปี) ควรนอน 9-11 ชั่วโมง 

วัยรุ่น (14-17 ปี) ควรนอน 8-10 ชั่วโมง 

ส่วนวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ (18-65 ปีขึ้นไป) ควรนอน 7-9 ชั่วโมง

คนเราควรที่จะพยายามเข้านอนก่อน 4 ทุ่มครึ่ง เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมามีร่างกายที่สดชื่นในวันรุ่งขึ้น และมีชีวิตที่ยืนยาวอีกด้วย เราถึงต้องนอนหลับสำหรับคนที่ต้องการมีสุขภาพดี เฉลียวฉลาด ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิต และพัฒนาความจำ



ข้าวโพดสายรุ้ง ข้าวโพดที่สวยที่สุด

Corn Rainbow , Glass Gem Corn


      ข้าวโพดที่สวยที่สุดในโลก ข้าวโพดอัญมณีแก้ว งดงามแวววาวราวกับทำมาจากแก้วจริง ๆ จากฝีมือการพัฒนาสายพันธุ์โดยชนพื้นเมืองอเมริกัน อยากรู้ว่าต้นกำเนิด ข้าวโพดอัญมณีแก้ว มาจากไหน ไปดูกัน

      ข้าวโพดสายรุ้ง จะเรียกได้ว่าเป็นข้าวโพดสายพันธุ์ที่สวยที่สุดในโลกก็คงไม่ผิด เพราะสำหรับข้าวโพดอัญมณีแก้ว (Glass Gem Corn) ที่ใครได้เห็นก็เป็นต้องทึ่งกับความงดงามราวกับอัญมณีของมัน จนนึกว่าเป็นข้าวโพดปลอมที่ทำขึ้นจากแก้วหลากสีที่แข่งกันส่องสีสวยประกายแวววาว จนได้รับชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าเป็น ข้าวโพดสายรุ้ง เลยทีเดียว แต่เชื่อหรือไม่ว่าข้าวโพดอัญมณีแก้วเหล่านี้เป็นข้าวโพดจริงๆ แถมยังนำมาทานได้จริงๆ ด้วย



      สำหรับต้นกำเนิดของข้าวโพดอัญมณีแก้วนั้น เริ่มขึ้นเมื่อนายคาร์ล บาร์นส์ เกษตรกรชาวเชอโรคี ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน จากรัฐโอคลาโฮมา สหรัฐฯ เริ่มสังเกตเห็นว่าบางครั้งข้าวโพดในไร่ของเขาจะมีสีของเมล็ดที่ดูต่างไปจากปกติ เขาจึงได้เริ่มอุทิศชีวิตเพื่อการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดขึ้น จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จและสามารถเพาะพันธุ์ ข้าวโพดอัญมณีแก้ว ที่ไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องชื่นชมในความงดงามราวกับงานศิลป์มากกว่าจะเป็นเพียงธัญพืชของมัน



      จากนั้น ในปี 2553 ก่อนที่นายคาร์ลจะสิ้นใจ เขาได้ฝากข้าวโพดอัญมณีแก้วที่เขาเคยเก็บไว้แก่ นายเกรก สโคน นักเพาะพันธุ์ข้าวโพดเพื่อฝากภารกิจในการปกป้องสายพันธุ์ข้าวโพดอันงดงามที่เขาค้นพบไม่ให้สูญหายไป 

      ซึ่งความหวังของนายคาร์ลก็เป็นจริง เมื่อข้าวโพดอัญมณีแก้วได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์จนมีสีสันที่ต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิมออกมาหลากหลายสีด้วยกัน



      สีของข้าวโพดสายรุ้งจะมีหลายสีมาก ขึ้นอยู่กับการรับแสงและปรับสายพันธุ์ของสี

      นำเมล็ดข้าวโพดสายอัญมณี หรือ ข้าวโพดสายรุ้งมาจากต่างประเทศ เข้ามาจำหน่าย ส่วนสีที่ได้ของข้าวโพดสายรุ้งขึ้นอยู่กับการได้รับแสงและดินที่ใช้สำหรับเพาะปลูกก็ส่งผลต่อสีด้วย 

      โดยถ้าข้าวโพดที่ได้รับแสงจัดสีก็จะเข้มไปด้วย แต่ถ้าได้รับแสงน้อย หรืออยู่ในร่มของต้นไม้อื่น สีก็จะเข้มน้อยลง..

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

หมาน้อยเพื่อนซี้

น้องหมานอนเฝ้าเพื่อนซี้ที่ป่วยเป็นออทิสติกไม่ห่าง ^^'


James Isaac หนุ่มน้อยที่ตอนนี้มีอายุ 9 ขวบ เขาป่วยเป็นโรคออทิสติก เป็นเด็กที่ไม่ยอมคุยกับใคร และไม่ชอบการออกไปนอกบ้าน ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มิเชลล์ผู้เป็นแม่เผยว่าได้ไปรับตัวเจ้า Mahe สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ที่ถูกฝึกมาเพื่อให้เป็นเพื่อนกับผู้ป่วย เมื่อเจมส์ได้พบกับเจ้ามาฮีเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ยอมออกไปนอกบ้าน พวกเขาสนิทกัน ไปไหนต้องไปด้วยกัน และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจมส์มีอาการช็อก เจ้ามาฮีก็ไม่ยอมห่างจากเจมส์มันนอนเฝ้าเพื่อนซี้ของมันตลอดเวลา ^^'


หมาน้อยอยู่เคียงข้างเพื่อนซี้ไม่ยอมห่าง


วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

เปิดโลกเรียนรู้-อนุรักษ์ภาษาล้านนา

        ที่วัดดวงดี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดร.พิบูลย์ ชุมพลไพศาล อาจารย์ประจำวิชาพุทธศาสนาเถรวาท
         มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ลอนดอน และเลขาธิการสมาคมอนุรักษ์เอกสารโบราณ พร้อมพระปลัดอาทิตย์ อภิวัฑฒโน เจ้าอาวาสวัดดวงดี นายยาน เบลซิงเงอ ทูตวัฒนธรรมเยอรมนี ประจำประเทศไทย ร่วมกับศาสตราจารย์ฮารัลด์ ฮุนดีอุส ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา และวรรณกรรมไทย-ลาว มหาวิทยาลัยพัซเซา ประเทศเยอรมนี และหัวหน้าท้องถิ่นโครงการรวบรวมคัมภีร์ใบลาน
นายเดวิด วอร์เติน ผู้อำนวยการด้านวิชาการของโครงการหอสมุดคัมภีร์ใบลาน และการลงข้อมูลภาษาอังกฤษ 

        ลงพื้นที่ตรวจดูโครงการหอสมุดคัมภีร์ใบลานล้านนา พร้อมนำเว็บไซต์มาแสดงแก่เจ้าอาวาส สืบเนื่องจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย, หอสมุดดิจิตอลลาว และกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ร่วมกันจัดทำโครงการดังกล่าว ซึ่งรวบรวมคัมภีร์ใบลานของภาคเหนือนำมาบันทึกเป็นระบบดิจิตอล และรวมไว้ในเว็บไซต์ http://lannamanuscripts.net/en โดยมีฐานข้อมูลอยู่ 4,100 เรื่อง 
         พระปลัดอาทิตย์กล่าวว่า วัดดวงดีมีคัมภีร์ใบลานอยู่ 900 กว่าเรื่อง เก็บไว้ในหีบธรรม 21 ตู้ โดยเนื้อหาส่วนมากเป็นเรื่องประเพณีพุทธศาสนาและชาดก เป็นภาษาล้านนาซึ่งกำลังจะสูญหาย จึงอยากรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ภาษาล้านนา เพื่อเข้าถึงพุทธศาสนาได้มากขึ้น และจากโครงการดังกล่าวเข้ามาช่วยเหลืออนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน และรวบรวมให้ออกมาในรูปแบบฟิล์มถือเป็นเรื่องดี เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วโลกได้เข้าถึง และเรียนรู้ และสัมผัสคัมภีร์ใบลานได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยเผยแผ่พุทธศาสนาอีกด้วย

         ด้านดร.พิบูลย์กล่าวว่า ปัจจุบันข้อมูลคัมภีร์ใบลานถือเป็นเอกสารโบราณไทยขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ส่งผลกระตุ้นให้นักวิชาการด้านคัมภีร์ใบลานทั่วโลกตื่นตัว และเกิดกำลังใจในการทำงานในวงกว้าง สำหรับประเทศ ไทยถือเป็นงานท้าทาย ทั้งนี้งานทั้งประเทศจะสำเร็จได้ถ้ามีการทำงานร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างจริงจัง และควรสร้างนักพัฒนาให้มีผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/BRlhmp

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

พวกชอบวิพากย์วิจารณ์ ชอบตำหนิติเตียนสั่งสอนคณะสงฆ์ไทย โปรดอ่าน

อยากให้ชาวพุทธฝีปากกล้า ที่ชอบวิพากย์วิจารณ์ ชอบตำหนิติเตียนสั่งสอนคณะสงฆ์ไทย ในยามที่คณะสงฆ์ไทยออกมาเคลื่อนไหว เพื่อประกาศจุดยืนแสดงพลังแห่งความสามัคคีเพื่อรักษาพระพุทธศาสนา ได้ลองอ่านบทความนี้ แล้วพิจารณาดูนะ 
.........................................................................
@เท่าที่ผมขอความเห็นหารือและนั่งฟังความรู้ประเด็นพุทธศาสนาที่หายไปจากอินเดีย
@ท่านดร. ประสิทธิ์ บุตรศรี และท่านอาจารย์เอกภพ เหล่าลาภะ เล่าให้ผมฟังว่า ทางกองทัพมุสลิมจากตุรกีแปลกใจมาก ที่พระนับหมื่นๆรูปในมหาวิทยาลัยนาลันทาพากันนั่งสมาธิเงียบๆ ถูกบั่นคอขาดใจตายทีละรูปๆจนหมดสถาบันและก็ถูกเผาทิ้งในท้ายที่สุด
#แม่ทัพมุสลิมสงสัยว่าเหล่านักบวชศีรษะโล้นนับหมื่นๆ รูปกลับพากันถืออหิงสานั่งนิ่งเฉยไม่ลุกขึ้นต่อสู้ไม่ตอบโต้ทั้งที่ถูกรังแกและย่ำยีฝ่ายเดียว
#แต่แคว้นที่รอดพ้นภัยจากกองทัพมุสลิมคือแถวรัฐมหาราษฏร์เพราะเจ้าเมืองและกลุ่มนักบวชฮินดูตอบโต้และต่อสู้เข้มแข็ง
‪#‎วันนั้นถ้าพระในนาลันทารวมตัวรวมพลังลุกขึ้นสู้มหาวิทยาลัยก็อาจดำรงอยู่‬
แต่เท่าที่ทราบพระในมหาวิทยาลัยนาลันทาแตกแยกทางความคิดและแตกแยกกันทางความเชื่อรุนแรงไม่สามัคคีกันเลยตายแบบไก่ในเล้าที่ตายยกเข่งมองอินเดียมาแก้ปัญหาการศาสนาในเมืองไทยถ้ามหาเถรสมาคมยังคงนิ่งเฉยถืออหิงสาและสันติวางเฉยไปวันๆก็คงเพลี่ยงพล้ำปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามล้มสถาบันพุทธศาสนาได้ง่ายดาย
แพ้เป็นโจร ชนะเป็นเจ้า
รีบๆดำเนินการวางแผนจัดองค์การในวัดต่างๆ จัดระบบปฏิบัติงานจัดการสร้างทีมผู้นำศาสนาที่เป็นศาสนทายาทแถว ๒ และแถว ๓ รับไม้นำพุทธศาสนาต่อควบคุมและออกคำสั่งวัดกว่าสามหมื่นวัดและขอความร่วมมือพุทธบริษัทให้ช่วยคิดช่วยทำเพื่อพระพุทธศาสนา ยึดหลัก "รักษาจุดร่วมสงวนจุดต่าง"
ผมว่ายังไม่สายที่มหาเถรสมาคมจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงองค์การ
ก่อนที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามเข้ามาเปลี่ยนแปลง!
ด้วยความเคารพและเป็นห่วงองค์การคณะสงฆ์และสถาบันพระพุทธศาสนาครับ
บทความโดย...อุทิส ศิริวรรณ
.........................................................................
วัดไหน? ที่มีความสามัคคี มีพระเณรที่บวชด้วยศรัทธาและปัญญา มีศิษย์วัดที่เข้าวัดด้วยศรัทธาและปัญญา มีสาธุชนที่เข้าวัดด้วยศรัทธาและปัญญา มีการจัดระเบียบองค์การอย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนงานการศึกษาเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืนมั่นคง
วัดไหนไม่ทราบ ????????
ก็คงมีเด่น ๆ อยู่วัดหนึ่ง แถว ๆ ปทุมธานี แต่ถ้าวัดทุกวัดทำได้หมดประเทศหละ คิดว่าไง???? ดี ไม่ดี ???  https://goo.gl/dhVsiW

เพื่อพระพุทธศาสนา และส่วนรวม !!!

พระเมธีธรรมาจารย์ (ท่านเจ้าคุณประสาน จนฺทสาโร) 
เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย 
โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลง Facebook “พระเมธีธรรมาจารย์ – เจ้าคุณประสาร” ระบุว่า


“ก่อนไปหาความสงบ นั่งกัมมัฏฐานที่วัดป่าในต่างจังหวัด หลังร่วมงานสำคัญๆและเคลียร์งานแล้ว 

  ขณะกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานคนเดียวช่วงเย็น ก็มีคนมาเคาะประตู เปิดไปกลายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารมาขอพบสองนาย บอกว่า “เป็นทหารชั้นผู้น้อย ผู้บังคับบัญชาให้มา มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่เจอ

 วันนี้มารอ เห็นอยู่ในงานเลยไม่แสดงตัว มาเพื่อทำความรู้จักสนิทสนม คุ้นเคย” ไม่มีปัญหา ต่างคนต่างทำหน้าที่ อาตมายืนยันว่า เราทำเพื่อพระศาสนาและส่วนรวม

พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร จนฺทสาโร)
‪#‎เจ้าคุณประสาร‬
12 มีนาคม 2559”
http://www.matichon.co.th/news/68271



 รายชื่อล้น 4 หมื่นถอดถอนผู้ตรวจการแผ่นดิน | เดลินิวส์ "สนพ.เผยได้รายชื่อพระ-คฤหัสถ์เกิน 40,000 ชื่อ ถอดถอนผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมเปิดเดินหน้ารับรายชื่อต่อเนื่อง

 ส่วนวันเวลายื่นเรื่องขอดูท่าทีรัฐบาล สถานการณ์บ้านเมืองก่อน โต้นายกรัฐมนตรีถ้ารัฐบาลหยุดบีบบังคับ มหาเถรฯ พระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ ทำเรื่องสถาปนาสังฆราชตามกฎหมายคณะสงฆ์ ทุกอย่างก็จะเข้าสู่ปกติ วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559 เวลา 16:52 น."
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/education/385310

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

เจ้าคณะอำเภอสงขลาหนุน มส. ซัดพวกจ้องล้มสงฆ์!!!

เจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลาหนุนการทำงาน มส. 
เพราะยึดหลักความถูกต้อง ซัดพวกจ้องล้มสงฆ์ คือคนทำร้ายประเทศ
พระครูวิรัตธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลา วัดแหลมทราย เปิดเผยต่อกรณีมีผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนาโจมตีมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า องค์กรมหาเถรสมาคมเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ 

พระเถระที่เป็นกรรมการทุกรูปล้วนมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์ หลายรูปบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร กว่าจะได้เป็นมหาเปรียญ เป็นเจ้าอาวาส เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ท่านต้องผ่านงานมาเยอะมาก 

ถ้าเราไม่ให้ความเคารพต่อองค์กรสูงสุดของคณะสงฆ์ ก็ถือว่าไม่มีความปรารถนาดีต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ การที่กรรมการ มส.ออกมติอะไรออกมา ท่านเอาความถูกต้อง ไม่ได้เอาความถูกใจ ไม่ได้เอาพวกเป็นเกณฑ์ ตนขอให้กำลังใจและสนับสนุนกิจการของ มส. ส่วนพวกที่มีปัญหาตนมองว่าคือพวกที่มีอคติ ไม่ยอมรับกฎ กติกา และมารยาท
คนมีอคติพยายามล้มการปกครองคณะสงฆ์ ตนก็พร้อมออกมาปกป้อง เชื่อว่าชาวพุทธทั้งหลายจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเช่นกัน
“เขาปักธงไว้แล้วว่าต้องทำลายองค์กรมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของพระพุทธศาสนาให้ได้ แต่ยังไงก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เหตุการณ์บ้านเมืองเราไม่ปกติอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้นอีก ทำให้รู้สึกว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้ช่วยเหลือประเทศชาติแล้วยังไปทำร้ายประเทศชาติอีก”

จงรักษาใจ..ให้เหมือน "นาฬิกา"

จงรักษาใจ..ให้เหมือน "นาฬิกา"
เพราะหน้าที่ของนาฬิกา
คือ..การอยู่กับปัจจุบันขณะ
ด้วยสัจจะ และความเที่ยงตรง
ปากอย่าไว...ใจอย่าเบา
เรื่องเก่าอย่าไปรื้อฟื้น
เรื่องอื่นอย่าไปคิด
กิจที่ชอบในปัจจุบัน...ให้รีบทำ
ในยามที่เราพบกับความยุ่งยาก ต้องพึ่งพาความเยือกเย็น
ค่อย ๆ ย้อนลงไปแยกแยะสาเหตุแห่งปัญหา ที่ทำให้เราเร่าร้อน

เราจะเอาชนะความยุ่งยากของชีวิตได้ ด้วยการเอาชนะความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในใจของเราเสียก่อน
จงมองดูความวิตกกังวลของตนเอง มองดูว่ามันทำให้เราเอาชนะปัญหาของเรา หรือมันทำให้เราหมดพลัง และพ่ายแพ้

ปัญหาต่าง ๆ ของชีวิตผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ความทุกข์ยากที่เราคิดว่ามันแสนสาหัสสำหรับเราในวันนี้ ในวันข้างหน้าเราอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย

ความรู้สึกตัว...ที่เกิดขึ้นมาทีละขณะนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับหยดน้ำที่เรากำลังสะสมทีละหยด..ทีละหยด
น้ำหนึ่งหยดนั้น..อาจดูเหมือนทำอะไรไม่ได้มาก แต่เมื่อจากหนึ่งเป็นสอง..สองเป็นสิบ..สิบเป็นร้อย..มากเข้า ๆ และเราก็ยังสะสมต่อไปเรื่อย ๆ น้ำหนึ่งหยดก็จะกลายเป็นน้ำหนึ่งถัง และเป็นน้ำจำนวนมหาศาลที่สามารถสร้างพลังงานสร้างสรรค์ประโยชน์เพิ่มเป็นทวีคูณในไม่ช้า

เช่นกันกับ..ความรู้สึกตัว..ที่เมื่อเราสะสมจนมีความต่อเนื่องมากพอ ความรู้สึกตัวนี้..ก็จะมีพลังทำให้เราค้นพบชีวิตที่เป็นอิสระ สามารถอยู่ร่วมกับความรู้สึกต่าง ๆ ได้โดยไม่เจ็บปวดหรือโดนทำร้ายเหมือนที่เคยเป็น

๑ ปี เอาเหล็กมาขัดสนิมหนึ่งครั้ง ซ้ำยังไม่ขัดถึงที่สุด ไม่ทำถึงจุดที่จะไม่เกิดสนิมสืบต่อไป เหล็กจะวาวขึ้นมาได้อย่างไร?
การขัดเกลาตนของนักปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน และสนิมเหล็กเกิดจากเนื้อในเหล็ก กัดกร่อนทำลายเหล็ก ฉันใด สนิมใจเกิดจากเนื้อในใจ กัดกร่อนทำลายใจ ฉันนั้น

"การละบาป เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการทำบุญ ถ้าทำบาปแลกบุญจะขาดทุนเรื่อยไป"

"ใจจะสงบได้ ก็เพราะความเห็นที่ถูกต้อง"

"ธรรมดาจิตนั้นนะ..มันมีเวลาขยัน และขี้เกียจ ถ้าทำเพียรด้วยสัจจะ เราต้องทำเรื่อยทั้งที่ขี้เกียจ ทำจิตให้จิตรู้อยู่ การรู้ภายใน การฉลาดภายในจิตจะเป็นอย่างนี้ การทำทุกวัน บางทีสงบ บางทีไม่สงบ เป็นอนิจจัง"
"เมื่อมีปัญญาเกิดขึ้นในจิตใจของเราแล้ว จะมองไปที่ไหน..จะมีแต่ธรรมะทั้งนั้น เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตลอดเวลา"

คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน...แต่มักมีปัญหาการฟังให้เข้าใจ คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียน...แต่มักมีปัญหาเรื่องการรู้ให้จริง คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องการเปล่งเสียง...แต่มักมีปัญหาเรื่องการพูดให้เข้าหูคน
คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้...ต้องหยุดคิดให้ได้..จึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิดนั่นแหละ..จึงรู้ คนในโลกนี้ต้องมีสิ่งที่มี เพื่ออาศัยสิ่งนั้นเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ต้องปฏิบัติถึงสิ่งที่ไม่มี และอยู่กับสิ่งที่ไม่มี

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

เราเมตตาหรือให้อภัยได้อย่างไร..

หลายคนสงสัยว่า หากคนๆหนึ่งทำเลวกับเราไว้มากๆ แล้วเราจะไปเมตตาหรือให้อภัยเขาลงได้อย่างไร..

ที่ถามมาเช่นนั้น เพราะสิ่งที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือ "การให้อภัย" 
ไม่ใช่การกระทำเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนที่เราเกลียด 
แต่เป็นการกระทำเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตัวเราเอง...

เวลาที่เราเกลียดใคร คนที่ได้รับผลเสียทันทีคือตัวเรา
เพราะสารพิษต่างๆและสารเคมีแห่งความเครียดที่เรียกว่า "คอร์ติโซล" 
จะหลั่งไหลออกมามากมายในสมองของเราเอง 
...ไม่ใช่ในสมองของคนที่เราเกลียด

เวลาที่เราให้อภัยใคร คนที่โชคดีทันทีคือตัวเรา
เพราะสารเคมีแห่งความสุขที่เรียกว่า "เอ็นดอร์ฟิน" และ "เซโรโทนิน" 
จะหลั่งไหลออกมามากมายในสมองของเราเอง 
...ไม่ใช่ในสมองของคนที่เราให้อภัย

...เกลียดเขา เรากลับป่วยง่าย และตายเร็ว
...เมตตาเขา เรากลับสุขภาพดี และมีอายุยืน

...เกลียดเขา เราทุกข์
...เมตตาเขา เราสุขเอง

นี่แหละคือความหมายอันลึกซึ้งของ "ธรรม" ที่เรียกว่า
"มโนกรรม" 
ซึ่งแปลว่า...
"กรรม ที่กระทำด้วยจิตใจ"

จำคำที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้เถิดว่า...
“เจ้าจะไม่ถูกลงโทษ เพราะเจ้าโกรธ 
แต่เจ้าจะถูกลงโทษ โดยความโกรธของเจ้าเอง”

***เลิกหยิบขวดยาพิษขึ้นมาดื่ม แล้วหวังว่าคนอื่นจะตายเถอะนะครับ***

จากหนังสือ "กรรมตามสมอง" (Best Seller)

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ

สาเหตุแห่งการรบราฆ่าฟันกัน เบียดเบียนกันนั้น ไม่ใช่สาเหตุจากภายนอก แท้จริงเกิดจากกิเลสภายในตัวของมนุษย์นั่นเอง
มีคำกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่า  “ ถ้ามนุษย์ไม่มีศีลธรรม มนุษย์ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน”
เพราะสัตว์เดรัจฉานนั้น แยกแยะดีชั่ว บุญบาปไม่ออก มีแต่สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด การสืบพันธุ์ และมีความหวาดระแวงภัยอยู่ตลอด แต่มนุษย์นั้นมีศีลธรรมกำกับ จึงได้ชื่อว่ามนุษย์เพราะมีใจที่สูง แต่ถ้าไม่มีธรรมะในใจแล้วจึงไม่ต่างอะไรจากสัตว์ แต่เนื่องจากมนุษย์มีความเฉลียวฉลาดกว่าสัตว์มาก จึงมีกิเลสกล้าและมีอานุภาพการทำลายล้างได้สูงกว่าสัตว์ ยิ่งฉลาดมากเท่าไหร่ อานุภาพการทำลายล้างก็มากขึ้นเท่านั้นเอง
การศึกษาวิชาความรู้อย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้คนเลยแยกแยะดีชั่ว ถูกผิด ควรไม่ควร ได้เลยหากไม่มีศีลธรรมกำกับ มนุษย์จะมีมากคือความถือตัว ความอิจฉา ริษยากลัวคนอื่นได้ดีกว่าและอคติคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์หลงทำชั่วมากที่สุด  อคติคือความลำเอียง จะลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะความไม่รู้หรือเพราะโง่หรือจะ ลำเอียงเพราะหลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุทำให้มนุษย์สร้างบาปกรรมทั้งสิ้น เหมือนองคุลิมาลจอมโจรที่ฆ่าคนตายนับพันคน เพราะหลงผิดเชื่ออาจารย์
ซึ่งอาจารย์เองก็หลงผิดเพราะโดนยุจากลูกศิษย์ที่อิจฉาองคุลิมาล สาเหตุเพราะองคุลิมาลเฉลียวฉลาด ทั้งเก่งและมารยาทดี
มีสกุลจึงเป็นที่รักของอาจารย์ ศิษย์คนอื่นจึงเกิดอิจฉารวมกันหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีองคุลิมาล อาจารย์หลงเชื่อจึงวางแผนฆ่าลูกศิษย์โดยคิดยืมมือคนอื่นฆ่าเพราะกลัวคำครหา องคุลิมาลแม้ฉลาดแต่ก็ไม่ได้เฉลียวใจว่าอาจารย์คิดฆ่าตน จึงทำตามคำสั่งออกฆ่าคน เพราะความเก่งและฉลาดนั่นเองทำให้ใครก็จับตัวไม่ได้ ใครก็ฆ่าไม่ได้  
จนสุดท้ายท่านได้พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด เพียงได้ฟังคำสอนสั้น ๆ ว่า สมณะหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด  เพราะความมีปัญญาของท่าน ท่านก็ได้หยุดคิดเมื่อหยุดคิดก็คิดได้จึงวางอาวุธก้มกราบฟังธรรมแล้วขอบวช ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ สร้างคุณูปการไว้มากมายแก่พระพุทธศาสนา  
จะเห็นได้ว่า คนฉลาดถ้าขาดศีลธรรมและคบคนพาลเสียแล้ว ก็จะสร้างความฉิบหายให้แก่ประเทศชาติและโลกใบนี้ 
แต่ถ้าฉลาดและมีคุณธรรมด้วยแล้วก็จะสร้างคุณประโยชน์อันมหาศาลแก่โลกใบนี้เช่นกัน
ดังนั้นศีลธรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อทุกคนในชาติมากที่สุดในตอนนี้ สถาบันศาสนาหรือสถาบันสงฆ์จึงเป็นหลักใหญ่ใจความที่ถ่ายทอดศีลธรรมสู่ใจคน หากสถาบันนี้ถูกทำลายลง ประเทศชาติก็คงย่อยยับลงเช่นกัน เพราะคงจะเหลือแต่คนที่ฉลาดแต่ไร้ศีลธรรม 

พ.นครธรรม

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

วงการสื่อเริ่มสั่นคลอน.!!!

เพราะสังคมกำลังสงสัยในจริยธรรมและความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพสื่อ

นับว่าเป็นบทเรียนที่ดีที่นักนิเทศศาสตร์จะได้ศึกษาทั้งในเชิงของกฎหมายและเชิงจริยธรรม

กี่ข่าวแล้ว ที่สื่อนำเสนอข่าวแบบตัดสินเสร็จสรรพว่าผิด ทั้งที่ในความเป็นจริงก็คือ เรื่องนั้นยังไม่ได้ถูกตัดสินจากกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดเลยว่า ผิดจริงตามคำกล่าวหานั้น

ส่งผลให้ความดีที่คนบริสุทธิ์ผู้หนึ่งเพียรสร้างสั่งสมมาทั้งชีวิตต้องพังพินาทย่อยยับลงคามือของนักข่าวที่ไร้จรรยาบรรณ

ผู้บริสุทธิ์และผู้เกี่ยวข้องเหล่านั้น ต้องถูกเพื่อน ครอบครัว สังคม คนทั้งประเทศ ตราหน้าว่าชั่วร้าย ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นผู้ผิดดังที่ถูกกล่าวหา

เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าคนที่ถูกใส่ร้ายคือตัวคุณเอง หรือเป็นพ่อแม่พี่น้องครูบาอาจารย์บุคคลอันเป็นที่รักของคุณ คุณที่ทำหน้าที่สื่ออย่างไร้จรรยาบรรณอยู่ ณ ขณะนี้ จะรู้สึกอย่างไร รับได้ไหม กับการที่คนเหล่านั้นของคุณ ต้องมาถูกกลั่นแกล้งใส่ความ และถูกตราหน้าว่าคนชั่วไปจนตลอดชีวิต

ถามว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ?

ที่ผ่านมา สื่อไร้จรรยาบรรณเหล่านี้ เสนอข่าวเท็จเพื่อขายข่าว เมามันในการใส่สีตีไข่นั่งเทียนเขียนข่าวว่าเองเออเอง และในหลายครั้งก็รับจ้างเขียนข่าวร้ายซะเองเพราะความละโมบในเงินค่าจ้างก้อนโต

เพราะทราบดีว่า เมื่อถึงที่สุดแล้ว หากข่าวที่ตนนำเสนอเป็นข่าวเท็จบิดเบือน ตนก็จะแค่แสดงความเสียใจ ประกาศขอขมาด้วยข้อความแต่ตัวอักษรเบียดเสียดกันอยู่ในคอลัมน์หน้าในเล็กๆ ที่คนอ่านมองผ่านตาไป 

ปล่อยให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ยังคงลอยวนอยู่ในหัวสมองและในใจของผู้เสพข่าวที่หูเบาไปอีกยาวนาน โดยยังไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดเมื่อไร

ทำไมจึงไม่ขอขมาต่อผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นด้วยภาพและตัวอักษรที่ชัดเจนในหน้าหนึ่งของสื่อ 

และทำไมจึงไม่รับผิดชอบต่อชื่อเสียงเกียรติยศที่เขาเหล่านั้นต้องสูญเสียไปโดยไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่วงการสื่อต่างๆในบ้านเมืองของเรา ควรจะต้องถูกปฏิรูปเสียใหม่ ให้มีจิตสำนึกในจริยธรรมความเป็นสื่อสารมวลชนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

Cr : ผู้รักความยุติธรรม

เจ้าคณะบันนังสตาเตือนสติ!!! ใช้วิจารณญาณข่าวโจมตีมหาเถร

ลั่น! หากล้มคณะสงฆ์พร้อมออกมาปกป้องร่วมกับชาวพุทธทั่วประเทศ
พระครูสุทธิธรรมานุศาสก์ เจ้าคณะอำเภอบันนังสตา วัดพุทธภูมิ จังหวัดยะลา เปิดใจถึงกรณีพระ1รูปฆราวาส1คน โจมตีการทำงานของมหาเถรสมาคม(มส.)ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะขาดความกตัญญูกตเวที ไม่เคารพผู้ใหญ่ ถือตนว่าใหญ่ไม่ยอมรับใคร 
ถ้าไม่มีการเคารพกันสังคมก็เดือดร้อนวุ่นวาย ประเทศของเรามีการปกครองสงฆ์กันเป็นลำดับ การโจมตีพระผู้ใหญ่อย่างนี้ถือว่าไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่รู้จักว่าอะไรเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ บางเรื่องไม่จำเป็นต้องถึงมหาเถรสมาคมก็เคลียร์ได้ 
มหาเถรสมาคมเป็นองค์กรปกครองสูงสุด ถ้าเราเคารพผู้ใหญ่สังคมก็จะสงบสุขร่มเย็นตลอดไป
“ฝากถึงสาธุชนทุกท่านว่าหากได้ยินข่าวใดๆจงใช้วิจารณญาณ ใช้ความรอบคอบ ใช้สติสัมปชัญญะในปักใจเชื่อว่าอะไรควรอะไรไม่ควร และที่สำคัญคือจงให้ความเคารพนับถือพระเถระผู้ใหญ่ทุกรูป เพราะท่านประพฤติปฏิบัติตนมาจนตราบเท่าชีวิตแล้ว ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าคุณกันก็ด้วยความประพฤติที่ดี 
เพราะฉะนั้นเราจงให้ความเคารพนับถือท่าน และหากมีความพยายามล้มคณะสงฆ์ ล้มมหาเถรสมาคมอาตมาจะขึ้นขึ้นไปรวมกับพระสงฆ์ที่กรุงเทพแน่นอน อยากจะบอกว่าทางปักษ์ใต้นี้ศาสนาอิสลามรุกล้ำรุกรานมาจนเราจะอยู่ไม่ได้แล้ว เราจะมัวทะเลาะกันอยู่ทำไม”

ส่วนที่มีการโจมตีเรื่องการทำบุญ เจ้าคณะอำเภอบันนังสตากล่าวว่า พระเรานี้ไม่ได้ยินดีในเงินและทอง แต่ยินดีในปัจจัย4ถามว่าผิดตรงไหน? ทุกคนเกิดมาต้องดำรงอยู่ได้ด้วยปัจจัย 4
เพราะฉะนั้นเรายินดีในปัจจัย4ไม่ผิด ส่วนเรื่องหลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ก็ขอให้ท่านทำดีต่อไป ท่านทำมาเป็นสิบๆ ปีก็ไม่เห็นเป็นปัญหาอะไร พระสงฆ์เมืองไทยที่พร้อมจะร่วมเป็นร่วมตายกับท่านมีเยอะ