วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

@.. สมบัติผลัดกันชม ..@

...มีเจ้าของที่ดินมากกว่า 500 ไร่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า..

... เมื่อก่อนผมมีที่ดิน 500 ไร่รวมๆ กันทุกเขตของกรุงเทพ และเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ตอนนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมพกเงินในกระเป๋ากินเหล้าครั้งละแสน ทำมาค้าขายไม้ได้เงินดีจริงๆ ลูกๆ ผมส่งเรียนเมืองนอกหมด ไม่ต้องทำงาน  เรียนอย่างเดียว เมียผมชอบเล่นหุ้นๆ ก็ขึ้นเอาๆ เรามีเงินสดหลายร้อยล้าน 


... มีญาติผมคนหนึ่งเดือดร้อนมายืมเงินผม ผมด่าเขาซะไม่มีชิ้นดี  แต่ก็ให้เงินไปนะแสนนึง  แล้วบอกเขาว่าไม่ต้องมาหากูอีกนะ กูทานให้ เขารับเงินพร้อมน้ำตา ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกเขาจะรู้สึกยังไง 

... ปีต้มยำกุ้ง ผมไม่สะดุ้ง ปีน้ำท่วมน้ำพัดทุกอย่างไปจากชีวิตผมจริงๆ เมื่อผมคิดการใหญ่ตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธยา ไม่ได้ทำไม้แล้ว รถผม 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง ที่ดินทั้งหมด และเงินสดที่เคยมี แฟนผมเล่นหุ้นเจ๊งไปสี่ร้อยกว่าล้าน ลูกๆ ทำธุรกิจก็หมดตัวขาดทุนย่อยยับ ภายใน 2 ปี สิ่งที่ผมมีมันหายไป  เหลือไว้เพียงหนี้สินสองร้อยกว่าล้าน 

... ปัจจุบัน ผมคือบุคคลล้มละลาย เช่าห้องแถวอยู่  พอได้ขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิต  รอความตายไปวันๆ  เมียผมก็ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร ลูกๆ ผมไม่เคยเห็นหน้า ตอนนี้อายุ 76 ผมต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว ล้างจาน เจ็บป่วยก็ใช้ 30 บาทรักษาได้ทุกโรค ใครจะว่าคุณทักษิณยังไงผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าถ้าไม่มีโครงการนี้  ผมคงนอนกินยาทัมใจแทนไปหาหมอ ทุกวันนี้ผมปลงได้แล้วนะ

  ผมมาลำบากตอนแก่ เงินค่าเช่าห้องนี้  ผมไปยืมจากคนที่ผมเคยด่าเขาแล้วให้เขาไปแสนนึง  ลูกเขาเป็นคนให้ หลานไม่ได้ด่าผม แต่เขายื่นเงินให้ผมแสนห้า  แล้วบอกผมว่า "พ่อผมบากหน้าไปยืมเงินคุณลุง เพราะตอนนั้นผมเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดสมอง พ่อนั่งให้คุณลุงด่า  แล้วโยนเงินให้เหมือนหมา พ่อบอกว่าจะตีพ่อก็ยอม  เพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าคนที่จะช่วยได้

  เขาด่าตีทำร้ายหัวใจ ถ้ามีเงินให้คืนคุณลุง แสนนี้ผมคืน ห้าหมื่นคือดอกเบี้ย เราไม่มีหนี้บุญคุณกัน แต่ถ้าคุณลุงลำบาก คุณลุงมายืมกับผมๆ จะให้กู้ ผมจะไม่ด่าคุณลุง เหมือนที่คุณลุงด่าพ่อผม จริงถ้าไม่มีเงินคุณลุง ผมคงตาย แต่ถ้าพ่อผมไม่อดทนเพื่อแลกชีวิตผม ผมก็ตาย ผมทำตามที่พ่อบอกแล้ว 

... ลูกพ่อดูแลพ่อ ส่วนลูกคุณลุงผมไม่รู้ กรรมของใครของมัน" 

... ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้าน เอาเงินจ่ายค่าเช่าห้องแถว ลงทุนมีเก็บไว้ 30,000 บาท และผมเข้าใจความรู้สึกของคำว่า กรรมนั้นตามสนอง หลานไม่ได้ด่า แต่หลานพูดความจริง เพียงแต่ผมรับความจริงไม่ได้ 

... แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดีนะ  ขอทาน  พระ แม่ชี มากินก๋วยเตี๋ยวผม  ผมไม่คิดเงิน ตอนผมมีเยอะๆ ผมอยากเก๋เบื่อคนบอกบุญ  ผมหลอกเขาว่านับถือคริสต์  ผมไม่เคยทำบุญ ผมเที่ยว  ผมกิน  ผมมีผู้หญิง หมดตัวมีหนี้สิ้นเพื่อน ไร้ลูก ผมถึงฟังธรรมะได้ เข้าวัดเป็น  รู้จักทำทาน อีกหน่อยก็คงตายไป  ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนาให้เมียผมตายก่อนผม เพราะถ้าผมตายก่อนเมียผม ผมจะตายตาไม่หลับ....

... ไม่ต้องถามว่าร้านอยู่แถวไหน เพราะจะไม่บอกครับ  เก็บเรื่องราวมาให้อ่าน คนอ่านจบได้กำไร
คนขี้เกียจอ่านก็คงพลาดโอกาส 

... กำลังใจจากคุณตาที่ให้มา 
"ไม่มีอดตาย สำหรับคนขยัน และจนลง ไม่มีการปลงตก  ถ้าไม่เคยสูงสุด  แล้วมาต่ำสุด"

...เรื่องนี้สอนข้าพเจ้าได้ลึกซึ้งเหลือเกิน!!!

ขอจงอย่าประมาทในการดำเนินชีวิตเลยนะ...